“อะนิว หรือ เอนิว ?”
คำถามที่เราถาม ฌาน (เจ้าของแบรนด์ Anew Craft)
อะนิวครับ อะนิว 55555
ลูกค้าหลายคนก็ถามมานะครับว่า ใส่ดอกไม้ได้เยอะไหม ผมออกแบบงานนี้มา ผมไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใส่ดอกไม้เยอะขนาดนั้น เพราะช่อเดียวก็เพียงพอแล้วมั้งครับ *หัวเราะ
งานผมไม่จำเป็นต้องมองว่าเป็น Product จ๋า ขนาดนั้น เราจะมองว่ามันเป็น Sculpture เพื่อตกแต่งบ้านได้ด้วย ไม่ต้องมีดอกไม้มันก็โอเคแล้วนะ ผมคิดงั้นนะ…
— It’s A Design not Just a vase
ขายดีไซน์ไม่ได้ขายแจกัน —
Making Man
ผมเคยทำงานประจำอยู่ช่วงหนึ่งครับ ด้วยความที่เป็นสายลงมือทำมากกว่าพูดอยู่แล้ว เราเลยออกมาทำงานที่ตัวเองชอบดีกว่า อีกอย่างการเล่นกับจิตวิทยากับคน ผมไม่เก่งจริงๆ
แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องลงมือทำ ทำไปฟังเพลงไป อย่างแบรนด์ Anew Craft ผมอยากทำ ผมก็ลงมือทำเองเลย 1 เดือนกว่าแล้ว ทำงานไป หาเงินไปด้วย ขับชอปเปอร์ไป ก็มีความสุขดีครับ *ยิ้มหวาน
“หม้อไหม้”
จากวันที่เราไปกินข้าวบ้านเพื่อน เขม่าดำบริเวณก้นหม้อด้วยฟืนไม้ การไล่ระดับของสีดำไปจนถึงสีไม้จริง จากศิลปะที่ใกล้ตัวที่เราไม่เคยสังเกตจริงจัง ด้วยความที่เราจบ Product Design ด้วยมั้งครับ เราเลยเอาสิ่งที่เรามองเห็น บวกกับงานไม้ที่เราถนัด มาทำเป็นแจกันไม้ที่เห็นอยู่นี้ครับ
งานเหล็ก งานไม้ เป็นสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว เราเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่เราทำเองไหว ทำไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ชื่อว่า Anew Craft
SHOU SUGI BAN
อีกหนึ่งเทคนิคที่ผมชอบและเลือกใช้ทำงานในคอลเลคชั่นนี้ เป็นการใช้ไฟเผาไม้ เพื่อถนอมเนื้อไม้ เป็นหลักการถนอมเนื้อไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ด้วยที่ผมเห็นว่างานมันสนุก
ผมเลยลองทำงานที่มันดิบ เถื่อนมากกว่า เผามากกว่า เคลือบมากกว่า รูปทรงและ Texture ที่แปลกขึ้น พูดง่าย ๆ คือ ทำงานตามอารมณ์อยากสนุกก็ลองทำอะไรแปลก ๆ อยากเถื่อนก็เผามันทั้งวันเลย *หัวเราะ
RHYTHM of arts
งานที่ผมทำ Exclusive ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจังหวะหมดเลยครับ ผมฟังเพลง ขี่รถ ทุกอย่างจะมีจังหวะในหัวผมตลอดเวลา แม้กระทั่งการขึ้นต้นแบบแจกันที่พิเศษอันนี้ ผมก็ทำตามจังหวะในหัวจนเป็นรูปทรงที่โค้งเว้า และดีไซน์ที่เน้นมาจากความรู้สึกของผมเอง และเป็นไซส์ที่ใหญ่ขึ้นกว่างานชิ้นอื่น ๆ ที่เคยทำมา และมันน่าสนุกที่ผมได้ลองทำ
******
THE CONTINUUM
Connection จากพี่คนหนึ่งครับ เป็นพี่ที่สนิทกันมาก แนะนำให้ผมได้รู้จัก ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้รู้จักอะไรแบบนี้เท่าไหร่ *หัวเราะ แต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจดีครับ เพราะผมเองก็ทำผลงานออกมาผ่านเรื่องเล่าที่ผมได้เจอมา แล้วมาเจอ The Continuum คนที่จะเล่าเรื่องให้ผมได้ในมุมที่ต่างออกไป ผมว่ามันน่าสนุกดีครับ
Look forward
ผมยังพูดไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้ก็ยังอินอยู่กับความดิบของงานมากกว่าครับ ในอนาคตผมก็คงปล่อยมันไปตามสิ่งที่ผมเจอ เวลาขี่รถไป มองบรรยากาศ เสพวัฒนธรรมที่ต่างจากที่ผมเคยสัมผัส เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับจังหวะและช่วงเวลาชีวิตหมดเลยครับ
งานวัสดุและความดิบ น่าจะเป็นสิ่งที่ผมอยากทำต่อไป งานชิ้นใหญ่ขึ้น วัสดุที่แปลกขึ้น Texture ที่ใหม่ขึ้น ทดลองไปเรื่อยๆ ทำให้มันเกิดความงามที่ทุกคนเข้าถึงได้