ศิลปินเดี่ยวรุ่นเก๋า
ชื่อแบรนด์ที่ตรงตัวและตรงไปตรงมา งานสานจากฝีมือคุณแม่ชม จึงได้ชื่อแบรนด์ว่า
“Chom Hand Craft”
เดิมทีคุณแม่รอดรัตน์ (คุณแม่ชม) ทำงานสานผักตบชวามานานกว่า 30 ปี คุณแม่เป็นคนมีพรสวรรค์ด้านงานหัตถกรรม ตั้งแต่การถักไหมพรม เย็บปักถักร้อย รวมถึงงานสาน ซึ่งทุกกระบวนการสานของคุณแม่ เกิดจากครูพักลักจำและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกและพัฒนามาเรื่อยๆ จนได้เป็นงานที่เห็นในแบรนด์ในทุกวันนี
ด้วยความที่ไม่อยากให้งานหัตถกรรมที่มีอยู่เลือนหายไป คุณอิสรัตน์ แซ่ลิ้ม (คุณแอล) จึงเข้ามาปรับโฉมและสร้างแบรนด์อย่างเต็มตัว ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของคุณแอลที่อยากเห็นงานสานที่แปลกใหม่มากขึ้น ประจวบเหมาะกับช่วงที่คุณแม่เคยทำงานฝีมือให้กับสังกัดหนึ่ง และคุณแม่ทำงานสานส่งให้ลูกค้าแบบหามรุ่งหามค่ำแบบเมื่อก่อนไม่ได้
คุณแม่จึงจำเป็นต้องออกจากสังกัดและเดบิวต์ใหม่ในนามศิลปินเดี่ยว และด้วยความที่ใจรักในการทำงานสาน อีกทั้งความรู้และประสบการณ์ที่โชกโชน ซึ่งคุณแอลรู้สึกว่าเป็นพรสวรรค์ที่คุณแม่มี สามารถทำอะไรได้อีกมากมาย และจะเสียดายเป็นอย่างมากถ้างานสานที่คุณแม่ทำนี้…จะเลือนหายไป
กว่าจะลงตัว
ก่อนจะใช้ผักตบชวามาสานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ คุณแม่เคยใช้วัสดุอื่นทำงานมาก่อน ในอดีตเคยใช้หญ้าแฝกและเชือกจากเส้นใยกล้วยทำ และพัฒนามาเรื่อยๆ ลองเปลี่ยนเป็นวัสดุอื่นอย่าง “ผักตบชวา” ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะผักตบชวาใช้ทำงานสานได้เข้ามือมากกว่า สามารถทำงานสานทั่วไปที่มีความยืดหยุ่นและทำงานสานที่มีความแข็ง อย่างงานพันหรืองานปั้นหุ่นได้เช่นกัน
โดยตัวงานทั้งชิ้น เราใช้ผักตบชวาในการทำแบบ 100% โดยไม่ต้องพึ่งวัสดุอื่นเลย และปัจจุบันคุณแม่จึงเลือกใช้พักตบชวาในการทำงานเป็นหลัก
จุดเด่นของเรา
“การสานแบบดั้งเดิม คือจุดเด่นของเรา”
งานส่วนใหญ่ที่เห็นจะเกิดขึ้นจากฝีมือของแม่และธรรมชาติของงานสานล้วนๆ เพราะจุดเด่นจริงๆ ของเราคือการทำสินค้าด้วยมือทั้งหมด ตั้งแต่การสาน การย้อมสี หรือแม้กระทั่งการออกแบบ แต่เรานำมาประยุกต์ให้เกิดลูกเล่นมากขึ้น โดยใช้การย้อมสีของผักตบชวา
โดยการทำให้เกิดสีสันบนชิ้นงาน ถึงแม้ว่าจะเป็นการสานแบบดั้งเดิมก็จริง แต่สิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้เลยคือการใช้ผักตบชวาที่มีสี มาสานและแซมเข้ากับตัวฐานงาน เพื่อให้เกิดลายหรือ Pattern ที่เราคาดเดาไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้ชิ้นงานแต่ละชิ้นแตกต่างและเกิดเป็นเอกลักษณ์ของชิ้นงาน
และถึงแม้จะทำด้วยวิธีการเดียวกันก็ตาม แต่เพราะมันคืองานที่เราทำด้วยมือทุกขั้นตอน ไม่มีการใช้เครื่องจักรใดๆ และการย้อมสีหรือสานแต่ละครั้งเราตั้งใจรอดูผลที่จะเกิดขึ้นกับชิ้นงานที่แตกต่างกันอย่างภาคภูมิใจ
เรื่องเยอะจนได้เรื่อง
กว่าจะได้ผักตบชวามาสาน ต้องคัดเอาแต่ส่วนกลางของลำต้น เนื่องจากเป็นส่วนที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด และกว่าจะได้ใช้งานจริง ก็ต้องนำไปตากแดดนานกว่า 3 วันเพื่อนำความชื้นออกจากผักตบชวาได้มากที่สุด และป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราในชิ้นงาน
การคัดเกรดผักตบชวาเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะต้องใช้ผักตบชวาที่มีลำต้นไม่อ่อนหรือแก่จนเกิดไป เพราะถ้าแก่เกินไปจะทำให้ลำต้นแข็งและเมื่อนำมาสานขึ้นงาน จะแนบเนียนไม่เสมอกัน แต่ในทางกลับกัน ถ้าใช้ลำต้นที่อ่อนจนเกินไปจะได้ชิ้นงานที่ไม่แข็งแรง เพราะเส้นใยน้อย ทำให้ชิ้นงานไม่เป็นทรง เพราะทุกกระบวนการเราใส่ใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้สินค้าของ Chom Hand Craft เป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจมากขึ้น
เมื่อได้รับการสนใจมากขึ้น หลังจากเริ่มทำแบรนด์อย่างจริงจัง จึงรับซื้อผักตบชวาจากชาวบ้านในท้องถิ่นที่เพื่อเป็นการสนันสนุนให้เกิดรายได้ในชุมชนอย่างยั่งยืน แน่นอนว่าผักตบชวาที่ได้มาแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในชุมชนที่ต่างกัน ซึ่งมีผลต่อตัวงานอยู่พอสมควร แต่เราโชคดีมากที่มีผู้ขายและจัดหาผักตบชวาที่มีคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอ
กลิ่นอายของ Chom Hand Craft
ความเป็นญี่ปุ่นในงานของ Chom Hand Craft เกิดจากการเอาปรัชญาการทำงานในแบบฉบับของเราเอง ที่ยังใช้วิธีการทำงานสานแบบดั้งเดิม แต่ปรับรูปแบบให้สนุกสนานและหลุดจากภาพเดิมๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานฝีมือในระดับชุมชนของญี่ปุ่นหลายๆ ประเภท ทั้งของกินและของใช้ เครื่องนุ่มห่ม พวกเขาสามารถสร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจน และได้รับการยกย่องและยังเป็นที่ต้องการในระดับโลกเลยก็มี
– เราจึงคิดว่า ถ้าพยายามมากพอ งานของพวกเราก็อาจจะไปถึงจุดนั้นได้เหมือนกัน –
และแรงบันดาลใจที่ทำให้งานของ Chom Hand Craft แตกต่างจากเจ้าอื่น คือการกล้าที่จะเล่นสีสันลงไปในชิ้นงาน เช่น การอ้างอิงสี รูปทรง รวมถึงโทนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติและ On Top ไปบนงานด้วยการจัดวางสีหรือลายแบบ Random ปล่อยให้สีสันของงาน เกิดจากการสาน เพื่อให้งานของเราไม่น่าเบื่อและจำเจ
“งานจากวัชพืช”
คำนี้มองได้ทั้งทางลบและบวกนะ ถ้าทางลบจะดูต่ำต้อยเสียเหลือเกิน เพราะมันทำมาจากสวะในน้ำ แต่สำหรับเรา เราไม่คิดแบบนั้น
สำหรับคุณแอลแล้ว เห็นคำว่า “งานจากวัชพืช” เป็นความหมายในเชิงบวก เพราะเลือกและตั้งใจที่จะหยิบวัชพืชที่สร้างปัญหามากมายให้กับแม่น้ำนี้แหละมาทำให้เกิดประโยชน์ เพราะในแต่ละปีจะต้องมีการกำจัดผักตบชวาออกจากแม่น้ำโดยใช้งบไม่น้อย
เราจึงนำวัชพืชลอยน้ำพวกนี้มาสร้างสรรค์ใหม่ ใส่ทักษะที่เรามีรวมถึงตีตลาดให้กับงานเหล่านี้ให้เกิดมูลค่า ผลิตสินค้าออกมามากมาย เช่น ของใช้ต่างๆ กระเป๋า เครื่องประดับ รวมถึงของที่ระลึก
เราคิดว่า “ผักตบชวา” มันคือ Material จากธรรมชาติที่นำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชุมชนและตัวเราได้
เรียนรู้ด้วยตันเอง
ด้วยความที่คุณแม่เป็นคนมีความสามารถในการสานเป็นทุนเดิม บวกกับประสบการณ์มากกว่า 30 ปี คุณแม่เรียนรู้ด้วยตัวเองจากการสังเกตงานสานรอบๆ ตัว ลองรื้อออกมาแล้วประกอบกลับเข้าไปใหม่ให้เหมือนเดิม และเริ่มลงมือสานและแกะงานสานที่เห็นตามท้องตลาด เพื่อเพิ่ม Skill ในการทำงานมากขึ้น
เมื่อฝึกซ้อมจนเกิดความชำนาญ คุณแม่ชมจึงเริ่มออกแบบงานให้เป็นไปในแบบฉบับของตัวเองและทันยุคสมัยมากขึ้น ส่วนคุณแอลเรียนรู้เทคนิคการสานมาจากคุณแม่อีกทอด เพราะต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบงานสานให้แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน
ดังนั้นทั้งคู่จึงเรียนรู้พื้นฐานของงานสาน เพื่อเข้าใจธรรมชาติของมันและจุดที่จะเปลี่ยนหรือแทรกไอเดียลงไปชิ้นงานได้มากขึ้น
ยุคเปลี่ยน มุมมองเปลี่ยน
สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเป็นอันดับแรกคือ “มุมมอง” เพราะงานสานเป็นสิ่งที่คนละเลยได้ง่าย คนจะเห็นงานตอนสำเร็จแล้วแต่น้อยคนที่จะรู้และเข้าใจในกระบวนการธรรมชาติของงานสาน เราจึงต้อง Update ข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้คนเข้าใจและให้ความสำคัญต่องานหัตถกรรมไทยให้มากขึ้น
Chom Hand Craft จึงพัฒนาชิ้นงานให้เข้ากับช่วงเวลานั้นๆ เช่น ช่วง Summer เราก็จะทำงานสานที่เพิ่มสีสันลงไปในงาน เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับฤดูร้อน พูดง่ายๆ คืออยู่คู่กับเทรนด์ของโลก ต้องศึกษาว่าตอนนี้และต่อไปเทรนด์จะเป็นไปในทิศทางไหน เราควรจะปรับอะไร
ไม่ใช้เพียงแต่ตามเทรนด์หรือฉีกกฎของการทำงาน แต่เป็นการประมวลผลว่าเราควรออกแบบงานแบบไหน จึงจะเป็นตัวเราและยังน่าสนใจ ทำให้งานไม่ดูแปลกแยกจนเกินไป
เนื่องจากแบรนด์มีการปรับเปลี่ยนงานสานในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไปแล้ว ช่วงโควิดที่ผ่านมาและยังมีอยู่นี้ Chom Hand Craft ก็เปลี่ยนมาทำของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บ้านมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เราได้พบเจอกับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และศึกษาลูกค้าเพื่อพัฒนาแบรนด์ต่อไปได้อย่างไม่สิ้นสุด
ปัญหาที่คุณแอลพบเจอในการทำแบรนด์นี้ คือเรื่องของประสบการณ์ แต่โชคดีที่มมีผู้ใหญ่หลายๆ ท่านแนะนำและให้คำปรึกษาอยู่เสมอ เพราะอายุไม่ใช่ปัญหาในการลงมือทำ…อยู่ที่ว่าจะเริ่มทำหรือไม่
และที่สำคัญคือต้องศึกษาตลาดโลกว่าชิ้นงานที่เราตั้งใจทำ จะเป็นชิ้นงานแบบไหนได้บ้าง เพราะทุกสินค้าจะมี Target ของมัน แค่เราต้องอยู่ให้ถูกต้องและถูกเวลา
วัยต่างแต่ลงตัว
ถ้าให้นิยาม คงจะนิยามที่ว่า “งานคราฟท์จากคน 2 Gen” เพราะคุณแม่และเราอายุห่างกัน 40 ปี เป็นช่วงเวลาที่รสนิยมและแฟชั่นของแต่ละยุคแตกต่างกัน แต่เราสองคนหาจุดร่วมและออกแบบชิ้นงานให้มาเป็น Chom hand craft ได้ในแบบปัจจุบัน
การทำงานของคนต่างวัยกัน เรื่องที่พบเจอปัญหามากที่สุดสำหรับการทำแบรนด์ Chom Hand Craft คือความเข้มงวด เพราะเวลาทำงานก็จะจริงจังมาก และคุณแอลจะใช้อุปกรณ์และข้าวของต่างๆ อย่างมีคุณค่าที่สุด คุณแม่ก็จะแอบหยอกกันเล่นๆ ว่า “ขี้เหนียวจริงๆ เลย 555555”
คุณแอลจะได้ยินคำนี้บ่อยๆ เพราะคุณแม่เป็นคนสบายๆ ตามสไตล์คุณแม่ ที่ใจดีและเป็นกันเอง เวลาที่คุณแอลเจอปัญหา ก็จะมีให้กำลังใจกันอยู่เสมอว่าอย่าเครียดมาก เป็นอีกหนึ่งความน่ารักที่เราได้จากการสัมภาษณ์ครั้งนี้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานของคนต่างวัย คือ การปรับตัวเข้าหากัน ต่างคนต่างให้ความร่วมมือกันซึ่งและกัน เพราะปัญหาที่จะเจอบ่อยที่สุดคือการสื่อสาร ด้วยความที่คุณแอลอายุห่างกับคุณแม่ชม 40 ปี วิธีการพูดหรือการใช้ภาษา จึงต้องเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะเกิดการเข้าใจผิดกันได้ เช่น สีโซนิคบลูของเรา อาจจะเป็นสีเขียวแก่ของคุณแม่ก็ได้ 5555555
ต้องคอยสังเกตกันและกันอยู่เสมอ ว่าธรรมชาติของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เพราะใครอายุมากกว่าหรือน้อยกว่า แต่เป็นการให้เกียรติในฐานะเพื่อนร่วมงานกัน
การไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำงานเองยากขึ้นไหม?
ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป เดิมมีพื้นฐานทำงานสานจากทางคุณแม่ที่เคยทำงานในกลุ่มงานสานใหญ่ๆ ในอดีตอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้คุณแม่แยกตัวออกมาทำงานสานเองโดยมีคนในครอบครัว คนในชุมชนสนับสนุนและเกื้อหนุนกัน
เราสามารถเข้าถึงแหล่งผักตบชวาตากแห้งจากแหล่งผลิตขายอยู่ในชุมชน คุณแม่มี Skill ในการดูแลจัดเก็บผักตบ สานขึ้นรูป ตัดพิมพ์สำหรับทำต้นแบบงานสานได้ คุณพ่อทำเครื่องรีดผักตบชวา เป็นต้น ดังนั้นการดำเนินการจึงเป็นลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน ข้อดีคือเราเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด ได้ Connection แบบพบปะผู้คนจริงๆ
ข้อด้อยคงเป็นเรื่องไม่ได้รับการผลักดันจากรัฐหรืองบต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะวันนี้ระบบออนไลน์ค่อนข้างไปได้ไกลและเร็วกว่าแต่ก่อนมากๆ ลูกค้าเกือบ 100% ของมากจาก Social Media Online อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นตลาด Online จึงเป็นพื้นที่ที่ยังไปได้อีกไกล
ฉันก็เป็นคนขบถคนหนึ่ง
ส่วนตัวคุณแอลเป็นคนชอบความสนุกสนานและความสงบ ชอบสีสันฉูดฉาดแต่ก็คุมโทน ชอบความโกลาหลท่ามกลางความเงียบ และชอบความไม่เป็นธรรมชาติที่อยู่ในธรรมชาติ ถ้าจะให้นิยามก็คงเป็น คนขบถ คนหนึ่ง
ด้วยสไตล์ของคุณแอลในลุคสาวเท่ ให้คำนิยายของการสักไว้ว่า “การสัก…ไม่ต่างอะไรกับการแต่งตัวหรือแต่งหน้า” เพราะการแสดงออกถึงตัวตนของคนมันมาจากที่จิตใจไม่ใช่รอยสัก เพราะพื้นฐานคนสักส่วนใหญ่คือความมั่นใจและการกล้าที่จะนำเสนอตัวตนในรูปแบบของตนเอง ก็เหมือนกับงานที่เราทำใน Chom Hand Craft เราจะสื่อสารงานออกมาในแบบฉบับของตัวเอง และนั่นคือความสนุกของเรา
เคยเป็นช่างภาพสุดแซ่บมาก่อน?!
การเป็นช่างภาพมาก่อน ช่วยในการทำแบรนด์ Chom Hand Craft เป็นอย่างมาก เพราะการขายของในโลกออนไลน์ สิ่งที่เป็นหัวใจหลักคือการนำเสนอ เพราะช่วงเริ่มต้นที่ทำงาน คุณแอลมองภาพไว้แล้วว่าจะต้องสื่อสารด้วยภาพที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายที่สุด
คุณแอลได้วิธีการจับคู่สีที่จะทำให้ภาพออกมาสวย นำวิธีการจับคู่สีนั้นมาใช้กับการทำประเป๋าบางรุ่น และที่แน่ๆ เวลาถ่ายภาพ จะได้องค์ประกอบภาพที่สวยงามแน่นอน โดยที่เราไม่ต้องจ้างช่างภาพเลย
แม่จะไม่ทน
สิ่งที่เคยสานแล้วแปลกที่สุด และจะไม่ทำอีกแล้ว ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว…
เคยมีนักศึกษาปริญญาโททำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับงานสานลอยตัว ลักษณะคล้ายเก้าอี้รูปทรงอิสระ มีสัดส่วนบิดไปมาและใช้หญ้าแฝกในการขึ้นรูป ในเวลานั้นนักศึกษาท่านนั้นเดินทางให้ช่างหลายคนทำ แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จจนกระทั่งมีคำแนะนำให้มาหาคุณแม่ คุณแม่ทำให้ตามแบบจนสำเร็จจนได้
แต่เล่นเอาคุณแม่ชมปาดเหงื่อ และที่จะไม่ทำอีก เพราะหญ้าแฝกมีคุณสมบัติแข็ง กระด้าง เวลาจับให้บิดไปตามแบบ มักจะคืนตัวดีดออกมา ทำให้ยากในการจัดการ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แม่จะไม่ทนอีก 555555
*****